คุณเคยสังเกตุไมว่า รถยนต์ คันนึง มีอายุการใช้งานแบบที่ไม่มีปัญหาเลยกี่ปี ตอบไม่ได้กันเลยที่เดียวพราะรถยนต์บางคันที่ชื้อมาใหม่ๆ ยังมีปัญหาเลย เรามาดูสิ่งที่ต้องเปลี่ยนเมื่อถึงเวลากันค่ะ ที่จริงอายุการใช้งานของรถยนต์นั้นจะขึ้นอยู่กับการดูแลรักษารถยนต์เป็นหลัก โดยอย่างยิ่งส่วนประกอบต่างๆ ภายในรถของคุณ คุณทราบหรือไม่ว่าชิ้นส่วนแต่ละชิ้นนั้นมีอายุการใช้งานของชิ้นนั้นๆ ยาวนานแค่ไหน ในบทความนี้เราเลยจะมาแนะนำชิ้นส่วนที่ต้องเปลี่ยนเมื่อถึงเวลากันค่ะ
ชิ้นส่วนรถยนต์ จะต้องเปลี่ยนเมื่อถึงเวลาตามที่กำหนด
หัวเทียน
- หัวเทียนถ้าเมื่อไรก็ตามที่มันเริ่มเสื่อม ให้ทราบไว้เลยว่า รถยนต์จะเริ่มอาการสะดุดตามมา คล้าย ๆ กับรถกระตุก คุณควรที่จะเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ทุกๆ ระยะประมาณ 40,000 กิโลเมตร
น้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่อง
- เคยสังเกตไหมว่าทุก ๆ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร คุณจะต้องทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทั้งนี้ก็เพื่อจะช่วยให้น้ำมันนั้นสามารถหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
น้ำมันเกียร์ และไส้กรองน้ำมันเกียร์
- เพราะรถยนต์ของคุณนั้นมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา การใช้งานมาก ๆ ก็อาจส่งผลทำให้เกิดการสึกหรอ และเสื่อมสภาพตามมา ดังนั้น เพื่อยืดอายุการใช้งาน อย่าลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เมื่อรถถึงระยะ 20,000 – 40,000 กิโลเมตร
แบตเตอรี่
- ไม่ว่าจะเป็นแบบแห้งหรือแบบเปียก ก็ต้องดูแลและตรวจเช็กกันให้ดี แม้ว่าแบบแห้งจะมีอายุการใช้งานนานกว่า แถมไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรมาก แต่ก็มองข้ามไม่ได้ จะให้ดีละก็หมั่นตรวจเช็กคุณภาพแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณทุก ๆ ปี
ผ้าเบรก
- อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของรถยนต์ที่ใช้สำหรับการหยุดรถ เมื่อไรก็ตามที่รถยนต์ของคุณเริ่มมีเสียงดังเอี๊ยด ๆ ขณะเบรกละก็ นั่นเป็นสัญญาเตือนแล้วว่าให้รีบจัดการเปลี่ยนทันที ไม่งั้นละก็เรื่องใหญ่แน่ ๆ หรือถ้ายังไม่มีอาการ แต่ระยะรถยนต์อยู่ที่ 50,000 – 70,000 กิโลเมตรแล้วละก็ อย่าลืมหาเวลาไปเช็คผ้าเบรก หรือเริ่มสังเกตอาการกันให้ดี
ไส้กรองอากาศ
- หากรถยนต์ของคุณมีสิ่งสกปรกเข้าไปมากนอกจากจะทำให้เครื่องกรองอากาศอุดตันแล้ว ยังทำให้กำลังเครื่องยนต์ลดลง อัตราการเผาไหม้ของเครื่องก็ทำได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น อย่าลืมหมั่นทำความสะอาดทุก 3,000 – 5,000 กิโลเมตร แล้วควรเปลี่ยนใหม่ ๆ ทุก 1 ปี หรือเมื่อใช้ไปถึง 20,000 กิโลเมตร
เพราะเราใช้รถกันทุกวัน ก็ควรหมั่นดูแลรักษารถยนต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอด้วย เพื่อยืดอายุการใช้งานรถยนต์ของคุณจะได้อยู่กับคุณไปนานๆ ไม่ต้องเป็นกังวนใจเมื่อต้องเดินทางไกล
เรียบเรียงโดย:168automotive
