ปัญหา และสาเหตุที่มักพบเจอกับการใช้รถ มอเตอร์ไซค์ หรือรถ บิ๊กไบค์
ปัญหาที่เกิดขึ้นมักเกิดจากอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนบางิ้นส่วนหลุดคิวซีมา แต่บางทีก็เกิดจากการใช้งานของแต่ละบุคคลเป็นส่วนมาก ดังนั้นในบทความต่อไปนี้เราจะมานำเสนอปัญหาที่มักเกิดกับรถบิ๊กไบค์ ว่าสาเหตุที่มักเกิดขึ้นว่าเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าว และมีวิธีการแก้ไขอย่างไรด้บ้าง ไปดูกันดีกว่าค่ะ
ปัญหาดิสก์เบรกค้าง
อาการของดิสก์เบรกค้าง บิ๊กไบค์ หรือในรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ๆ จะใช้ ระบบเบรกแบบ ดิสก์เบรกกันเป็นส่วนมาก
- ปัญหาดิสก์เบรกหลวม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นระบบเบรกที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่สุดระบบหนึ่งเลยทีเดียว แต่ในบางกรณีก็มักจะมีอาการ
- ปัญหาดิสก์เบรกค้างได้ โดยสังเกตได้เวลาที่เราขี่รถมอเตอร์ไซค์ของเราไปตามปกติ โดยไม่ได้แตะเบรกแต่อย่างใด แต่กลับพบว่ามันหน่วงๆ
- ปัญหาดิสก์เบรกมีเสียง เหมือนว่าดิสก์เบรกมันพยายามจะทำงานเพื่อหยุดรถอยู่ตลอดเวลา รถจะวิ่งได้ไม่ค่อยไป หรือบางกรณีร้ายแรงถึงขั้นมีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาทำให้ดิสก์เบรกเป็นรอย
สาเหตุที่เกิดอาการ และนวทางการแก้ไข
โดยมักเกิดจากสาเหตุจากยางกันฝุ่นปั้มดิสก์บรกมากการฉีกขาด จนทำให้น้ำซึมเข้าไปได้ และทำให้เกิดสนิมเกาะในบริเวณนั้น ทำให้ลูกสูบของเบรกไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้าออกได้ยากขึ้น วิธีการแก้ไข คือ ให้ถอดออกมาขัดสนิมออก แล้วก็ให้เปลี่ยนแม่ปั้มเรกใหม่ และถ้าหากมีสนิมเกาะมากจนเกินไปแล้วขัดไม่ออกแนะนำให้เปลี่ยนชุดเบรกใหม่
ปัญหาผ้าใบเบรกหมดไว
อาการที่ผ้าเบรกหมด เมื่อเราแตะเบรกจะพบว่ามีเสียงคล้ายๆ เหล็กกระทบกัน หรือเหล็กเสียดสีกัน หรือรู้สึกได้ว่าการเบรกนั้นไม่ค่อยจะหนึบเหมือนเดิมจนเริ่มสังเกตได้ หากว่าบางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นเบรกไม่อยู่และมีอาการสั่นบริเวณล้อเกิดขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณว่าผ้าใบเบรกของคุณใกล้จะหมดหรือว่าหมดไปเรียบร้อยแล้ว
สาเหตุ และแนวทางการแก้ไข
ตามปกติแล้ว ผ้าเบรกมีอายุในการใช้งานของมันอยู่แล้ว เมื่อหมดอายุของมันก็จะสึกไปเอง และต้องเปลี่ยน และในบางกรณีที่เกิดอาการผ้าใบเบรกหมดโดยที่ยังไม่ถึงเวลา นั่นเป็นจากจากขับขี่ของเราเอง โดยที่เบรกเกินกว่าความจำเป็นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นแล้วก็ต้องแก้ไขที่นิสัยการใช้เบรกของเรา คือเลือกใช้ให้เหมาะสมที่สุดนั่นเอง และถ้าผ้าใบเบรกนั้นหมดแล้วหรือว่าใกล้จะ ควรจะรีบเปลี่ยนโดยทันที และไม่ควรฝืนใช้งานต่อไป เพราะอาจจะทำให้จานเบรก (ดิสก์) นั้นเสียหายจนต้องถึงขั้นเปลี่ยนจานเบรกใหม่จะเสียค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ปัญหาสายคลัทช์ขาด
อาการปัญหาสายคลัทช์ขาด ถือว่าเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งของระบบขับเคลื่อน โดยเฉพาะในปัจจุบันนั้นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์แบบมีเกียร์ทั้งหลายส่วนมากก็ใช้ระบบคลัทช์กันทั้งนั้น ซึ่งอาการของสายคลัทช์ขาดนั้นแรกเริ่มเราจะสังเกตได้ว่า สายสลิงคลัทช์นั้นเส้นจะเริ่มบางลงกว่าปกติ
หรือว่าแตกตัว และความรู้สึกเวลามือเราบีบคลัทช์นั้นจะไม่เหมือนเดิม คืออาจจะตึงเกินไปหรือว่าหย่อนเกินไป โดยที่เราไม่ได้ไปตั้งคลัทช์ใหม่หรือว่าเปลี่ยนแปลงอะไร รวมไปถึงมีเสียงดังกอกๆ แกกๆ เวลาเราบีบคลัทช์ บางทีถ้าเกิดสัญญาณเหล่านี้เราต้องลองพิจารณาให้ละเอียดแล้วทำการเปลี่ยนโดยไม่ต้องรอให้สายมันขาดก็ได้
สาเหตุ และแนวทางการแก้ไข
สาเหตุนั้นเกิดขึ้น เราต้องเข้าใจก่อนว่าในระบบของคลัทช์นั้น ลูกปืนคลัทช์นั้นจะทำหน้าที่ยึดคลัทช์ไว้ในขณะที่เราวิ่งกันปกติ และเมื่อเวลาเราบีบสายคลัทช์ ตัวลูกปืนก็จะยกขึ้นจากชามคลัทช์เพื่อให้เราสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างสมูธ ดังนั้นสาเหตุหลักๆ นั้นก็แบ่งออกได้เป็นสองทางก็คือ
- สายคลัทช์ไม่ได้มาตรฐาน หรือว่าอาจจะหลุด QC มาจนทำสายคลัทช์สึกหรอหรือหมดอายุก่อนกำหนด หรือว่าใช้งานไปจนสายสลิงคลัทช์มันเสื่อมตามอายุการใช้งานของมันเองจริงๆ
- เกิดจากพฤติกรรมในการขับขี่ มักจะทำการเลียคลัทช์หรือว่ากำคลัทช์คลอๆ ไว้ตลอดเวลาที่ขี่โดยที่ไม่รู้ตัว หรือแม้กระทั่งบีบคลัทช์ไม่สุดเวลาเปลี่ยนเกียร์ จนทำให้ลูกปืนคลัทช์นั้นมีการขยับเข้าออกจากตัวชามคลัทช์แบบไม่สุด จนทำให้มีการดึงรั้งสายสลิงคลัทช์อยู่ตลอดเวลาและค่อยๆ สึกหรอลงเรื่อยๆ และยังรวมถึงการละเลยในการหยอดน้ำมันคลัทช์
ปัญหาลูกปืนล้อหลังแตก
อาการของลูกปืนแตก จะสังเกตได้ว่าเวลาเราเบรกแล้วล้อหลังจะมีอาการส่ายๆ หรือรู้สึกว่าล้อหลังนั้นมันจะหลวมๆ และอาจมีเสียงดังที่ล้อหลัง จนแตกทำให้เราไม่สามารถบังคับหรือทรงตัวล้อหลังให้อยู่ในศูนย์ปกติได้ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก
สาเหตุ และแนวทางการแก้ไข
นอกจากจะเกิดการเสื่อมสภาพตามอายุแล้ว ก็อาจเป็นเพราะเรานำเราวิ่งในถนนที่เป็นทางขรุขระ หรือเป็นหลุมเป็นบ่อโดยไม่ได้ผ่อนรถเลย หรือไปกระแทกโดนอะไรหนักที่ช่วงล่าง อย่างเช่นการขึ้นลูกระนาดโดยลืมเบาเครื่องกันบ่อยๆ ก็จะทำให้ลูกปืนล้อหลังเกิดอาการพังก่อนกำหนดได้ ถ้าเกิดว่าลูกปืนล้อหลังแตกขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องเปลี่ยนกันอย่างเดียวเท่านั้น และจะช่วยถนอมการใช้งานของมันได้โดยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมอย่างที่ว่ามา
ปัญหาสายคันเร่งขาด
อาการเห็นได้ชัดเจน ถ้าหากว่าสายคันเร่งขาดเวลาที่บิดคันเร่งแล้วมันจะไม่ขึ้น หรืออาการวืดนั่นเอง ทั้งที่เครื่องยนต์ยังติดอยู่เหมือนปกติทุกอย่าง นั่นแสดงว่าสายคันเร่งรถของคุณนั้นขาดแล้ว
สาเหตุ และแนวทางการแก้ไข
สาเหตุหลักๆ คือเสื่อมสภาพจนขาดนั่นเอง หรือไม่ก็เกิดจากทำคันเร่งค้างกันบ่อยๆ เพื่อให้รถมันวิ่งได้โดยเราไม่ต้องบิดคันเร่ง จนมันเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ และขาดในที่สุดนั่นเอง ก็ต้องแก้ไขกันที่พฤติกรรมตรง
ปัญหาชิ้นส่วนรถขึ้นสนิม
อาการแบบนี้ถือว่าเป็นปัญหาที่พบเห็นกันได้ทั่วไป กับสนิมที่ชอบมาเกาะตามชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ ในส่วนที่เป็นโลหะต่างๆ ซึ่งมันยังจะค่อยๆ กัดกร่อนวัสดุนั้นไปเรื่อยๆ หนักเข้าจนถึงขั้นผุพังกันไป
สาเหตุ และแนวทางการแก้ไข
สาเหตุหลักๆ ก็คือการที่ขี่รถลุยฝนเป็นเวลานานๆ แล้วไม่ได้เช็ดรถให้แห้ง และปล่อยทิ้ไว้ให้น้ำนั้นเกาะหรือขังตามจุดอับต่างๆ จนไม่สามารถระบายน้ำออกมาได้ หรือแม้กระทั่งการล้างรถแล้วไม่เช็ดน้ำให้แห้งสนิท โดยเฉพาะการล้างรถในเวลากลางคืน ที่ไม่มีแสงแดดช่วย ทำให้น้ำแห้งช้า และไม่เช็ดออกในทันที จนทำให้เกิดสนิมในที่สุด สำหรับการแก้ไขนั้นหากว่าสนิมยังเกาะไม่มากจนเกินไปนัก ก็สามารถใช้น้ำมันดีเซลหรือว่าน้ำมันชักแห้งมาทำความสะอาด
เรียบเรียงโดย: 168automotive
