เรื่องการต่อภาษี เป็นอีกหนึ่งเรื่องของคนวัยทำงานที่พอได้ยินถึงกับต้องจัดเตรียมหาวันหยุดให้เหมาะวมที่สุดเพราะหลายคนมักคิดว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเสียเวลาแน่นอน และก้ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี เรื่องของเอกสารก็ไม่รู้ว่าจะต้องจัดเตรียมอะไรไปบ้าง แถมระยนต์ที่ผ่อนอยู่นั้นก็ยังไม่ได้เล่นเรานั้นควรจะต่ออย่างไรดีละ หลายคนมักจะจบปัญหาเหล่านี้ด้วยการจ้างเขาทำง่ายกว่า
เรื่องค่าใช่จ่ายในช่วงที่เราต้องต่อภาษี นอกจากค่าตรวจสภาพรถยนต์ค่า พรบ. ค่าภาษีแล้ว ทำไมหลายๆท่านจะต้องจ่ายค่าจ้างอีกหลายร้อยอีกละ ในเมื่อความจริงแล้วเราก็สามารถที่จะทำเองได้ แถมความจริงแล้วการต่อภาษีนั้นก้ใช่เวลาไม่นานอย่างที่คิด แถมเรื่องของขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียมมานั้นก็ไม่ได้มีมากมายขนาดนั้น ตามมาอ่านกันเลยค่ะว่าขั้นตอนและเอกสารมีอะไรบ้าง
เอกสารที่ต้องเตรียมต่อภาษีรถยนต์
พรบ.
ใบตรวจสภาพรถยนต์ ในกรณีที่รถยนต์ที่ยังไม่ถึง7ปี ไม่ต้องใช้ใบตรวจสภาพ(ใช้เฉพาะรถยนต์ที่มีอายุเกินกว่า7ปี)
(เล่มรถ) หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถยนต์ ถ้ารถผ่อนอยู่ยังไม่ได้เล่มรถ ก็สามารถที่จะใช้สำเนาแทนได้
ขั้นตอนการต่อภาษีรถยนต์
- หากรถยนต์ท่านมีอายุยังไม่ถึง7ปี ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย เฉพาะรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7ปีเท่านั้น ต้องนำรถยนต์ตรวจสภาพ(นับอายุรถยนต์ จากวันที่จดทะเบียน) ซึ่งสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ก็มีอยู่มากมาย ให้สังเกตสัญลักษณ์ ตรอ. (ย่อมาจาก ตรวจสภาพรถเอกชน)
- ซื้อพรบ. เราสามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทน เช่นที่ธนาคาร ,ที่ ตรอ. ,ที่กรมการขนส่งทางบก แนะนำว่าให้ซื้อที่ ตรอ. จะสะดวกกว่า เพราะสามารถตรวจสภาพ และซื้อพรบ.ได้ที่นี่เลย
- ต่อภาษี เมื่อเราได้ใบตรวจสภาพและซื้อ พรบ. เรียบร้อยแล้ว ก็ขับรถไปที่กรมการขนส่งทางบกได้เลย ขับเข้าไปที่ช่อง “เลื่อนล้อต่อภาษี” เพื่อชำระค่าเสียภาษีประจำปี แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ หรือหากท่านใดไม่สะดวกไปที่กรมการขนส่งทางบก ก็สามารถต่อภาษี ผ่านทางออนไลน์ ที่ www.dlte-serv.in.th (เฉพาะรถที่ไม่ต้องตรวจสอบสภาพ) หรือสามารถต่อภาษีได้ที่ ไปรษณีย์ , ธนาคาร , จุดบริการตามห้างสรรพสินค้า , ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
อัตราค่าเสียภาษีรถยนต์
ที่นั่งในรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คนป้ายทะเบียนข้อความสีดำพื้นหลังสีขาวอัตราภาษีรายปีขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์ (CC) ดังต่อไปนี้
600 ซีซี แรก ซีซี ละ 0.50 บาท
601 -1,800 ซีซีๆ ละ 1.50 บาท
เกิน 1,800 ซีซี ๆ ละ 4.00 บาท
กรณีที่รถที่จดทะเบียนเกิน 5 ปี จะได้รับการลดหย่อนภาษีประจำปีในปีต่อไป เช่นเดียวกันกับด้านบน
อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุกันนะ ว่าสามารถต่อภาษีล่วงหน้าได้ 3 เดือน หากปล่อยภาษีขาด จะต้องเสียค่าปรับเดือนละ 1% และถ้าขาดต่อเกิน 3 ปี ท่านต้องนำรถไปจดทะเบียนใหม่ หากท่านใดนำรถที่ขาดต่อภาษีมาใช้ ถือว่าผิดกฎหมาย เวลาพี่ๆตำรวจเจอโดนใบสั่งนะจ๊ะ