การที่คุณ จอดรถยนต์ตากแดด เป็นเวลานาน นอกจากมีส่วนทำให้เกิดความร้อนอบอ้าวภายในรถแล้ว ยังส่งผลเสียทำให้รถสีซีด เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายอีกด้วย รวมถึงเบาะรถเกิดการเสื่อมสภาพรวดเร็ว อีกทั้งแผงคอนโซลก็อาจเกิดปัญหาเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากมีความจำเป็นต้องจอดรถท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน และแสงแดดจัดของเมืองไทย ควร ป้องกันไม่ให้รถยนต์เกิดความเสียหายได้อย่างไร
วิธีป้องกัน ไม่ให้รถยนต์เกิดความเสียหายจากการที่จอดรถตากแดดนานๆ
แง้มกระจกลงเล็กน้อย
- แง้มหน้าต่างข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 4 บานเอาไว้เล็กน้อย ไม่เกิน 1 เซนติเมตร ซึ่งจะช่วยระบายอากาศภายในรถยนต์ได้
ใช้ม่านบังแดด
- ป้องกันความร้อนจากภายนอกด้วยการใช้ม่านบังแดด โดยแนะนำให้ปิดบริเวณกระจกหน้า กระจกหลัง และกระจกด้านข้าง โดยมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดเข้ามาภายในรถยนต์ได้ดีเช่นกัน
ผ้าคลุมรถป้องกันแดด
- แนะนำให้ใช้ผ้าคลุมรถที่สามารถป้องกันแดด และรังสียูวีได้ โดยสามารถป้องกันไม่ให้ความร้อนเข้ามาภายในรถยนต์ อีกทั้งยังป้องกันรอยขีดข่วนได้อีกด้วย
ติดฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพสูง
- เลือกติดฟิล์มกรองแสง ที่มีคุณสมบัติป้องกันแสงแดดจากภายนอกได้ดี และสามารถป้องกันรังสียูวีได้ไม่น้อยกว่า 99%
เพื่อป้องกันไม่ให้สีรถยนต์ซีดจากการที่จอดรถตากแดดเป็นประจำ แนะนำให้เคลือบสี และล้างรถอย่างสม่ำเสมอ
เคลือบเบาะหนัง
- ใช้น้ำยาเคลือบเบาะหนัง คอนโซล แผงประตู และส่วนอื่นที่เป็นชนิดหนัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเสื่อมสภาพ ก่อนอายุการใช้งานจริง เนื่องจากจอดรถตากแดดเป็นระยะเวลานานๆ
ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้น
- ควรยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นให้ห่างจากกระจกรถ เพื่อป้องกันไม่ให้กรอบยางเกิดการเสื่อมสภาพ เพราะกระจกรถเมื่อถูกสงแดดเป็นระยะเวลานาน อาจเกิดความร้อนได้ และทำให้ยางี่ปัดน้ำฝนเปลื่อยได้ง่าย
เช็คลมยางสม่ำเสมอ
- ควรตรวจเช็คลมยางสม่ำเสมอ ว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ การที่เราอดรถไว้กลางแดด อาจจะทำให้ยางรถของเราซึมได้ง่าย
เช็คน้ำกลั่นแบตเตอรี่
- ตรวจเช็คน้ำกลั่นแบตเตอรี่อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ ว่าแห้งหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่ได้รับความเสียหายที่เกิดจากความร้อน ของการที่จอดรถตากแดด
และที่สำคัญคือ ไม่ควรทิ้งสิ่งของที่เสี่ยงเกิดการระเบิด เมื่อเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดเอาไว้ในรถ อาทิ โทรศัพท์มือถือ กระป๋องอัดแก๊ส หรือไฟแช็ก เพราะมีส่วนทำให้รถได้รับความเสียหายได้ ถ้าไม่อยากให้รถเสื่อมสภาพ หรือหมดอายุการใช้งานรวดเร็ว ควรตรวจเช็คสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญคือควรทำประกันภัยรถยนต์ เพื่อจะได้คุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน
เรียบเรียงโดย:168automotive