ในการดูแลรถยนต์ของเราให้อยู่กับเราไปนานๆ ไม่ได้ขึ้นกับฝีมือช่างซ่อม หรืออะไหล่รถยนต์เลย
แต่ขึ้นอยู่กับนิสัยการใช้รถและวิธีดูแลรถยนต์ของเราเองมากกว่า มาดู 5 นิสัยการใช้รถยอดแย่ ที่อาจทำให้รถยนต์ของเราเกิดความเสียหายได้ไวกว่าปกติ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1. ฝืนขับรถแม้น้ำมันใกล้หมด
คงมีเพื่อนๆหลายคนที่มักจะรู้สึกว่าขอขับรถต่ออีกหน่อยละกัน น้ำมันยังพอเหลือ ไว้ใกล้ๆหมดแล้วค่อยหาแวะปั๊มเติมดีกว่า เพราะคนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่า การเติมน้ำมันแต่ละทีเสียเงินเยอะ ไว้ใกล้ๆหมดแล้วไปเติมละกัน แต่เพื่อนๆทราบไหมครับว่า การปล่อยให้ระดับน้ำมันใกล้หมดแล้วยังฝืนขับรถ จะสร้างความเสียหายแก่รถยนต์ของเพื่อนๆในระยะยาว เพราะในถังน้ำมันมักมีเศษสิ่งสกปรกต่างๆนอนก้นอยู่เสมอ หากรถยนต์ของเพื่อนๆมีระดับน้ำมันอยู่มากเพียงพอ ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าเพื่อนๆยังฝืนใช้รถยนต์เมื่อน้ำมันเริ่มใกล้หมด เครื่องยนต์ก็จะสูบเอาเศษสิ่งสกปรกเหล่านี้จากใต้ก้นถังน้ำมันเข้าสู่ระบบ แล้วทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ จึงดีกว่าถ้าเพื่อนๆแวะปั๊มเพื่อเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันเหลือน้อยแต่ไม่ใช่ใกล้หมด เพื่อรักษาเครื่องยนต์และดูแลรถยนต์ให้มีสภาพดีได้นานๆครับ
2. เว้นช่วงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนานเกิน
หลายๆคนอาจละเลยการดูแลรถยนต์โดยไม่นำรถไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามตารางเวลา เพื่อนๆทราบไหมครับว่า น้ำมันเครื่องเป็นส่วนประกอบสำคัญที่หล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์เย็นลง และทำความสะอาดเครื่องยนต์ไปในเวลาเดียวกัน ทำให้ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินกำหนด น้ำมันเครื่องจะเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก ทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ดูแลเครื่องยนต์ได้เต็มที่อีกต่อไป แล้วทำให้รถของเพื่อนๆอาจจะเสียกลางทางได้ง่ายๆ จึงดีกว่าถ้าหากเพื่อนๆหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องให้ตรงเวลา จะได้ดูแลรถยนต์ให้อยู่ได้นานๆครับ
3. โหลดของหนักเกินไป
เพื่อนอยากจะไปขับรถเที่ยว การเตรียมตัวเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากเพื่อนๆเตรียมของมากเกินไป ก็จะทำให้รถรับน้ำหนักมากเกินจนพังได้ เพราะการโหลดน้ำหนักเกินจำเป็นจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก เวลาเร่งเครื่องหรือเบรคก็จะทำได้ยากขึ้น นอกจากนี้ การไม่แบกของหนักเกินไปก็จะช่วยทำให้เพื่อนๆ สามารถคุมสมดุลของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดแรงต้านที่จะเกิดขึ้นหากเพื่อนๆขับรถบนถนนขรุขระหรือทางลาดชันครับ
4. ชอบเร่งความเร็วและเบรคกระทันหัน
โดยรถยนต์แบบนี้จะออกแบบมาโดยเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก ไม่ได้เน้นที่ความแรงของเครื่องยนต์ ทำให้เมื่อเพื่อนๆเร่งเครื่อง ก็จะสร้างความเสียหายให้กับระบบส่งกำลังรถยนต์ และถ้าหากเพื่อนๆเบรคกะทันหันเกินไป ก็จะทำให้ผ้าเบรคเสื่อมไวและเกิดความร้อนจนเกินไปได้ หากทำแบบนี้บ่อยๆ รถของเพื่อนๆก็จะพังเร็วแน่นอนครับ ทางที่ดี หมั่นดูแลรถยนต์ของเพื่อนๆให้ดีด้วยการปรับนิสัยการขับรถให้ขับช้าๆนิ่มๆอย่างระมัดระวังจะดีกว่าครับ
5. ละเลยสัญญาณเตือน
หากรถมีสัญญาณไฟเตือน สัญญาณเหล่านี้มาบ่งบอกให้รู้ก่อนที่จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา เมื่อรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของรถยนต์ เพื่อนๆควรรีบนำรถเข้าอู่ซ่อมทันทีเพื่อเช็คปัญหา หากปล่อยทิ้งไว้ สัญญาณเตือนเหล่านั้นอาจพัฒนากลายมาเป็นความเสียหายใหญ่ต่อรถยนต์ของเพื่อนๆจนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรถยนต์เพิ่มขึ้นอีกโขนั่นเองครับ
ดูเหมือนแต่ละข้อจะไม่ใหญ่โตอะไร หลายคนก็มองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ และยังคงทำต่อไปเรื่อยๆ รถของเพื่อนๆก็มีสิทธิ์พังได้ในระยะยาวนะครับ ทางที่ดี หมั่นดูแลรถยนต์ของเพื่อนๆให้ดีด้วยการปรับแก้นิสัยเหล่านี้กันดีกว่า
ขอบคุณที่มา/gobear.