Hyundai Veloster 2020 เคาะราคาที่ออสเตรเลียเริ่มต้น 6 แสนเศษ

เมื่อช่วงเดือน มกราคมที่ผ่านมา Hyundai Veloster เจเนอเรชั่นที่ 2 นั้นถูกนำมาโชว์ตัวครั้งแรก

ที่งาน  Detroit Motor Show ในเมืองผู้ดีอย่างสหรัฐอเมริกา ทั้งยังคงการออกแบบดีไซน์เฉพาะตัวในเรื่องของรถ Hatchback รูปลักษณ์สปอร์ต ที่เป็นเอกลักษณ์กับประตูด้านหลังที่มีไว้เพียงฝั่งเดียว และหลังจากการรอคอมาอย่างยาวนานในที่สุดก็ออกมาประกาศราคาอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศออสเตรเลีย2020 Hyundai Velosterอยากเด่นอยากดังจะธรรมดาเหมือนคนอื่นได้อย่างไรละ เพราะครั้งนี้ Hyundai Veloster 2020 ตัวใหม่จะพ่วงตัวรุ่นย่อยมาด้วยกันทั้งหมดถึง 3 รุ่นให้เลือกสรรตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Veloster, Veloster Turbo และ Veloster Turbo Premium แถมทั้ง 3 รุ่นยังมาคู่กับระบบส่งกำลังให้เลือกตามใจลูกค้า ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด, เกียร์ธรรมดา 6 สปีด รวมไปถึงเกียร์ดูอัล-คลัตช์และ 7 สปีดสำหรับรุ่นเทอร์โบอีกต่างหาก

โดดเด่นมากับการออกแบบดีไซน์ด้วยไฟ LED DRLs มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานแบบครบถ้วน แถมยังใส่ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกมาอย่างจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ระบบสัญญาณเตือนระยะที่จะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ, ระบบที่คอยตรวจวัดแรงดันลมยางภายในรถ หรือแม้แต่กล้องมองหลังก็ถูกติดตั้งมาพร้อมกบตัวรถ เป็นต้น2020 Hyundai Veloster 2020 Hyundai Veloster2020 Hyundai Velosterส่วนทางตัวรุ่น Turbo อาจมาพร้อมกับอ็อปชั่นเสริมพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ตัวจอแบบสัมผัส Infotainment system ขนาดพอดีที 8 นิ้ว, ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ, มาคู่กับระบบควบคุมความเร็วทีจะแจ้งเตือนหากมีความเสี่ยงว่าตัวรถจะชนรถจากด้านหน้า รวมไปถึงระบบที่ช่วยเตือนจุดอับสายตาทั้งฝั่งข้างและฝั่งหลัง ที่ให้มาแบบพิเศษในรุ่น Turbo Premium นอกจากนี้ยังมีกระจกซันรูฟที่สวยงาม, จอแสดงผลแบบ head-up, ที่ชาร์จแบบไร้สายรวมถึงเบาะและที่หุ้มพวงมาลัยซึ่งปรับอุณหภูมิและความอบอุ่นได้อีกด้วย

ตัว Hyundai Veloster มาพร้อมกับขุมพลังงานเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ที่สามารถให้กำลังสูงสุดได้สูงสุด 150 แรงม้า และแรงบิด 180 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบจะมีขนาดใหม่เป็น 1.6 ลิตร กับกำลังสูงสุดที่อยู่ที่ 204 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 265 นิวตันเมตร นั่นเอง2020 Hyundai Veloster 2020 Hyundai Veloster 2020 Hyundai VelosterHyundai Veloster 2020 พึ่งออกมาประกาศราคาอย่างเป็นทางการที่ประเทศออสเตรเลียกับราคาค่าตัวที่ถูกเคาะเริ่มต้นอยู่ที่ 6.2 แสนบาท ส่วนตัวพี่ใญ่รุ่นท็อปจะอยู่ที่ราวๆ 8.8 ล้านบาท แต่ทั้งนี้เราก็ยังไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับการเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยแต่อย่างใด

เรียบเรียงโดย : 168Automotive.