แน่นอนว่าครั้งนี้เอาใจสาวกคนรักงานออกแบบของ F8 Tributo ไปเต็มๆเพราะรอบนี้เปิดตัวมาพร้อมกับ
ประสบการณ์เปิดประทุนด้วย Ferrari F8 Spider เป็นการตอบโจทย์คนที่รักรถเปิดประทุนอย่างมาก แน่นอนว่าการดีไซน์นั้นถูกออกแบบมาอย่างลงตัวระหว่างรุ่นเก่าที่ถูกนำมาประกอบเข้ากับ หลังคาแข็งเปิดประทุนแบบ RHT (Retractable Hard Top) แถมยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขุมพลังตัวใหม่ที่ถูกปรับปรุงมาจาก 488 SpiderFerrari F8 Spider มีแนวคิดต้นแบบมาจาก F8 Tributo ที่เป็น design language ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบของ ยุคใหม่ของค่าย ภายนอกนั้นมีการปรับเปลี่ยนกันชนหน้าให้มีช่องดักลมทรงตัว S เพื่อสามารถรีดลมได้ดีขึ้น มาพร้อมไฟหน้า LED แบบแนวตั้ง สปอยเลอร์หลังของตัวรถนั้นถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งชิ้น ส่วนตัวหลังคาที่ใช้เปิดประทุนนั้นเป็นแบบแข็งควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ใช้เวลาเปิด – ปิดภายใน 14 วินาทีเท่านั้น แต่ต้องอยู่ในกรณีที่รถนั้นทำความเร็วไม่เกิน 45 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ดีไซน์การออกแบบภานในห้องโดยสาร
- ออกแบบมาโดยให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่
- ตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน
- พวงมาลัยมีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กลงจากรุ่นก่อนหน้า ช่วยให้ควบคุมได้ไวขึ้น
- เบาะนั่งเปลี่ยนแบบใหม่ ผสานเข้ากับมาตรวัดสไตล์คลาสสิก
- ที่จัดวางวัดรอบเครื่องยนต์ไว้กึ่งกลาง
- สามารถติดตั้งหน้าจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว ฝั่งผู้โดยสารหน้าเพิ่มได้
ว่าด้วยเรื่องของเครื่องยนต์นั้นมาพร้อมกับขุมพลังงานเบนซิน แบบ V8 ขนาด 3.9 ลิตร 3,902 ซีซี. เทอร์โบคู่ สามารถที่จะให้กำลังสูงสุดถึง 720 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดของเพลาข้อเหวี่ยงสูงสุด 770 นิวตันเมตร ที่ 3,250 รอบ/นาที เมื่อเรานั้นนำมาเทียบกับ 488 Spider จะพบว่าสมรรถนะเพิ่มขึ้น 50 แรงม้า และ 10 นิวตันเมตร แถมน้ำหนักของเครื่องยนต์ยังเบากว่าเดิม 17% ส่วนท่อไอเสียของตัวรถนั้นเดินใหม่ทั้งเส้น ตั้งแต่เทอร์โบยันปลายท่อ เพื่อเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ มีการเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมรถรถด้วย ระบบ Ferrari Dynamic Enhancer Plus และมีการแก้ไขระบบให้สามารถทำงานในรูปแบบการขับขี่แบบ Race ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการควบคุมแรงดันของเบรกในคาลิปเปอร์ที่จะทำงานในช่วง เข้าโค้ง หรือ กำลังออกจากโค้ง เพื่อเพิ่ทประสิทฺภาพในการเกาะถนนมากยิ่งขึ้นเรื่องของบริการหลังซื้อ Ferrari F8 Spider เองนั้นก็ไม่ได้น้อนหน้าค่ายไหนๆเลยเพราะว่าทุกคันมาพร้อมกับการบริการหลังการขายนาน 7 ปี ตามมากับบริการบำรุงรักษาตามระยะทุก 20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี เพื่อดูดแลเครื่องยนต์ให้สามารถใช้งานได้ดีตลอด ตบท้ายด้วยพนังงานฝีมือดีที่ถูกอบรมโดยตรงจาก Ferrari Training Centre ใน Maranello ของประเทศอิตาลี ที่จะเข้ามาดูแลรถของคุณ
เรียบเรียงโดย:168automotive